เพื่อไทยเตือนรัฐบาล โอมิครอน ไม่กระจอก อย่าปล่อยบานปลายแล้วล็อกดาวน์อีก
เพื่อไทยเตือนรัฐบาล โอมิครอน เตือนรัฐบาลอย่านิ่งนอนใจ “โอมิครอน” ระบาด หวั่นเศรษฐกิจเสียหายกลายเป็นเผาจริงในปีนี้ อย่าปล่อยบานปลายแล้วล็อกดาวน์อีก ต้องเร่งทำงานเชิงรุก เตรียมระบบสาธารณสุขให้พร้อม
วันที่ 8 ม.ค. 2565 นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่เพิ่มขึ้น และในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องวันละ 2,000 คน จาก 3,899 คนในวันที่ 5 ม.ค. มาเป็น 7,526 คน ในวันที่ 7 ม.ค. 2565 จึงมีความกังวลเกี่ยวกับการป้องกันและรับมือกับสถานการณ์การระบาดของภาครัฐที่ไม่เท่าทันกับสถานการณ์ของโรค
โอไมครอนติดตาม
7 ม.ค. 65
ขอประชาชนยังยกการ์ดสูง “อนุทิน” ชี้ โอมิครอนระบาดคู่เดลตา ชมคนไทยมีวินัย
6 ม.ค. 65
รพ.จุฬาลงกรณ์ ประกาศงดเยี่ยมไข้ผู้ป่วย หลังโอมิครอนทวีความรุนแรงขึ้น
6 ม.ค. 65
เปิดรายละเอียดเตือนภัยโควิดระดับ 4 และหากไปถึงระดับ 5 ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
ดูทั้งหมด
ทั้งนี้ จากงานวิจัยมีข้อมูลพบว่าการติดเชื้อในระดับบุคคล ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากไวรัสที่กลายพันธุ์หรือภูมิคุ้มกันจากวัคซีน แต่หากมีการติดเชื้อเป็นวงกว้าง รวมกับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม หากเกิดการระบาดใน 2 กลุ่มนี้เป็นจำนวนมาก อาจจะสร้างแรงกดดันด้านระบบสาธารณสุขได้
นางสาวธีรรัตน์ ระบุต่อไปว่า ภาครัฐควรต้องเร่งทำงานเชิงรุกในการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข ทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ ยา และบุคลากรทางการแพทย์ให้เพียงพอ เพราะจากการลงพื้นที่ในหลายครั้งที่ผ่านมาพบว่ายังมีประชาชนจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงชุดตรวจ ATK ฟรีได้ หรือแม้กระทั่งหน้ากากอนามัยยังไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อ จนต้องซักหน้ากากอนามัยใช้ซ้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น
ดังนั้น จึงอยากให้รัฐเรียนรู้จากบทเรียนการระบาดในหลายครั้งที่ผ่านมา อย่าผัดวันประกันพรุ่งในการป้องกันการระบาด อย่าปล่อยให้สถานการณ์บานปลายแล้วประกาศล็อกดาวน์แบบกะทันหันอีก เพราะไม่อย่างนั้นในปี 2565 อาจจะเป็นปีเผาจริงของเศรษฐกิจปากท้องของคนไทยจนยากที่จะฟื้นตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้
หากจะรอเพียงความสามารถที่มีอยู่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ควบรวมอำนาจการบริหารไว้เพียงคนเดียว คงไม่สามารถบริหารจัดการได้ เพราะผลงานที่ผ่านมาพิสูจน์จนเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าล้มเหลว และสร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนมากน้อยเพียงใด ใช้งบประมาณแผ่นดินไป 25 ล้านล้านบาท กู้เงินรวมกว่า 5 ล้านล้านบาท หนี้สาธารณะกว่า 9 ล้านล้านบาท แต่คุณภาพชีวิตคนไทยกลับแย่ลงทุกวัน
“รัฐบาลไม่ควรนิ่งนอนใจกับเชื้อโอมิครอนจนดูถูกว่าเป็นสายพันธุ์กระจอก หากกระจอกจริง การเตือนภัยความรุนแรงคงไม่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4 ทางที่ดีรัฐบาลต้องตื่นรู้ เตรียมการ แต่ไม่ตื่นกลัว”
อ่านข่าวเพิ่มเติม >>> thennew.com