แหวกช่องยื้อกติกาเดิม ใกล้ฉากทัศน์แห่งความระทึกเต็มที
แหวกช่องยื้อกติกาเดิม ใกล้ฉากทัศน์แห่งความระทึกเต็มที จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด โดนพิษโอมิครอน ทั้งตรวจแบบ RT-PCR และ ATK ตัวเลขเริ่มทะลุใกล้เฉียดแสนรายต่อวัน อย่างที่กระทรวงสาธารณสุขเคยคาดการณ์
ขณะที่การรับมือศึกโควิดจากรัฐบาลเริ่มปั่นป่วนอีกรอบ สวนทางกับการที่กระทรวงสาธารณสุขเตรียมประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อสูงลิ่วติดต่อกันหลายวัน
ระบบสาธารณสุขกลับมาปั่นป่วน ยอดสะสมผู้ป่วยล้นเกินเตียงรองรับ ต้องใช้รูปแบบกักตัวรวมหมู่-กักตัวที่บ้าน ออกมาตรการ “เจอ แจก จบ” ส่งข้าวส่งน้ำส่งยาไปตามยถากรรม
นั่นไม่เท่ากับเริ่มมีการ “โยนกลอง” ของหน่วยงานต่างๆ
ทั้งโบ้ยเรื่องสายด่วน 1330 โทร.ติดยาก เป็นแค่สายด่วนหน่วยสนับสนุน แต่หลักๆคือกระทรวงสาธารณสุขต้องเร่งพัฒนาระบบตัวเอง ขณะที่เบอร์โทร.ใน 50 เขต กทม.ก็ยังมีปัญหา “ประสานงา” กับกระทรวงสาธารณสุข
คำว่า “บูรณาการ” ยังต้องรอเติมเต็มกันต่อไป
ในฉากทัศน์ที่ตามมาติดๆ และคงไม่เหนือความคาดหมายกับสถานการณ์โลก วิกฤติขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย สะเทือนถึงประเทศไทยแน่ ทั้งปมราคาน้ำมัน พลังงาน การค้า การส่งออก
เม็ดเงินจากภาคท่องเที่ยว ไปจนถึงวัตถุดิบอาหารสัตว์ จาก 2 ประเทศคู่กรณีผู้ผลิตรายใหญ่
จึงไม่แปลกที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ดูจะซีเรียสเครียดหนัก ปม “รัสเซีย–ยูเครน” จ่อคิวร้อน ส่งแรงกระแทกเศรษฐกิจไทยให้ยิ่งบักโกรกเข้าไปใหญ่
กระทบเป็นลูกระนาด ซ้ำเติมยุคข้าวยากหมากแพง ผู้คนอดอยาก โรคระบาดก็ยังแก้ไม่ตก เป็นปัจจัยสร้าง “ฉากทัศน์ระทึก” ต่อสถานะและแผนอำนาจของผู้นำ
ที่เคยปักหมุดไว้ ลากยาวให้ถึง “ปลายปี” จัดประชุมเอเปกให้สมเกียรติผู้นำประเทศยาวนาน
วันนี้เป้าหมายของ “บิ๊กตู่” เริ่มแกว่ง สั่งเช็กโปรแกรมเปิดสภาฯรอบหน้า เข้าโซนอันตรายศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ 22 พ.ค.เป็นต้นไป
กลายเป็นหมุดหมายใหม่ จะทำอะไรก็ต้องเร่งทำ ก่อนเข้าล็อก “นายกฯห้ามยุบสภา” หนีเขียงเชือด
เพราะเอาเข้าจริงก็ยังไม่มั่นใจแต้มหนุนในสภาฯ ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าค่ายภูมิใจไทย เร่เปิดโพยขายฝัน
จึงมีอีกทางเลือก ยุบสภาก่อน ค่อยเลือกตั้งกลับมาเป็นผู้นำ จัดอีเวนต์ใหญ่อย่างเท่ๆ
อ่านทาง ก็สอดคล้องกับสัญญาณเร่งปั๊มกฎหมายลูก จนฝุ่นตลบ ในคิวเกมเลือกเก้าอี้ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ
มีรายการพลิกโผ จากนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชี รายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ “พี่ใหญ่ ป่ารอยต่อฯกรุ๊ป” วางตัวไว้ กลายเป็น “สาธิต ปิตุเตชะ” รมช.สาธารณสุข จากประชาธิปัตย์ ขึ้นนั่งแท่น พรางแผนมัดข้าวต้ม “ภูมิใจไทย-ปชป.” คุมเกม
ขณะที่ “ลุงโทนี่ ดูไบ” ตีปีก เป็นสัญญาณเตือนอันตรายของรัฐบาล
แต่อีกทาง ก็มีคนมอง คิวนี้เป็นเกมหักขั้วลุงพี่ใหญ่ ประเมินแล้วลูกน่าจะเข้าทางแผนอำนาจของ “บิ๊กตู่” ที่ก็อยากเอาชัวร์เรื่องกฎกติกาเลือกตั้ง
ถึงแม้จะพลิกกลับไปใช้รูปแบบเดิมได้ยาก เมื่อรัฐธรรมนูญล็อกไว้ที่ “บัตรสองใบ” แต่ก็ยังมีช่องเล่นแร่แปรธาตุ ด้วยการยึด “สูตรคำนวณ” แบบเดิม หา “ส.ส.พึงมี” เหมือนรอบที่แล้ว
นอกจากเอื้อต่อพิมพ์เขียวผู้นำเปิดค่ายใหม่เอง ยังดับฝันฉีกแผน “แลนด์สไลด์” ของ “โทนี่” ชะงัก
รูปการณ์สอดคล้องกับ “เอฟซีลุงตู่” อย่าง “พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม” ส.ว. ออกมาเปิดไต๋ ระบุทำนอง ถึงแม้จะแก้รัฐธรรมนูญกลับไปใช้สูตรเลือกตั้ง “บัตรสองใบ” เลือก ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 100 คน แต่ไปพลาด ไม่ได้แก้ไขเรื่องสูตรคำนวณ
ฉะนั้น ถ้าเลือกตั้งรูปแบบใหม่ ยังไงก็ต้องใช้การคำนวณหา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แบบ “ส.ส.พึงมี” เช่นเดิม
ขณะที่อีกด้าน ประธาน กมธ.พิจารณากฎหมายลูก อย่างนายสาธิต ปิตุเตชะ ก็มีทีท่าแบ่งรับแบ่งสู้ ปม “สูตรคำนวณ” คงต้องนำมาพิจารณาดูด้วย
ออกรูปนี้เข้าทางแผนลึกเกมลับ ด้วย “อภินิหารทางกฎหมาย” ทำให้สูตรบัตรสองใบเป็นแค่ “ภาพ”
แต่เนื้อในใช้การคำนวณเก้าอี้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เหมือนเดิม
ในห้วงผู้นำจดจ่อ แหวกหาช่อง “กำหนดเกมถนัด”.
ดูข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ : thennew.com